สิ่งสำคัญที่ HR ต้องเรียนรู้จากงาน Recruitment (ตอนที่ 2)

  • 24 Jan 2025
  • 4165
หางาน,สมัครงาน,งาน,สิ่งสำคัญที่ HR ต้องเรียนรู้จากงาน Recruitment (ตอนที่ 2)

จากตอนที่แล้วผมได้นำเสนอสิ่งสำคัญที่ HR ต้องเรียนรู้ไป 3 เรื่อง ส่วนในตอนที่2 หรือตอนจบนี้จะมีเรื่องอะไรอีกบ้าง ไปติดตามกันต่อเลยครับ

 

4.ยอมเหนื่อยกับการพัฒนาระบบการสรรหาและสัมภาษณ์ : ที่จริงนั้นไม่มีระบบงานใดที่ดีสมบูรณ์แบบหรอกนะครับ เมื่อวานเราอาจรู้สึกว่าระบบงานมันดีแล้ว แต่ก็ไม่มีอะไรการันตีได้ว่ามันจะดีสำหรับวันนี้ ดังนั้นสิ่งที่แน่นอนก็คือเราต้องมี mindset ของการปรับปรุงงานสรรหาและสัมภาษณ์ของเราอย่างต่อเนื่อง เพื่อประสิทธิภาพที่มากขึ้นทุก ๆ วัน เช่น ปีก่อนเราปรับปรุง Managerial Competency ในองค์กร ปีนี้เราก็ปรับปรุงแบบประเมินผลการสัมภาษณ์ในส่วนของ Managerial Competency นี้ใหม่ พร้อมกับกำหนดเกณฑ์การประเมินคำตอบของผู้สมัครงานไปด้วยในตัว และเมื่อถึงวันนี้มีงบประมาณมาบ้างก็เสนอขออนุมัติจัดฝึกอบรมเทคนิคการสัมภาษณ์เชิงพฤติกรรม (Behavioral Interview) ให้กับผู้จัดการแผนกที่เป็นผู้สัมภาษณ์ พร้อมกับจัดทำคู่มือสัมภาษณ์สำหรับผู้บังคับบัญชามอบให้กับผู้สัมภาษณ์แต่ละท่านเสียเลย รวมสองปีมีสามงานที่ผ่านมือ ได้ประสบการณ์และความรู้อีกมากโขเลยครับ 

โดยเฉพาะการกำหนดเกณฑ์ประเมินผลสัมภาษณ์ จากการทำ Workshop กับ Recruiter หลายองค์กร ผมพบว่า เรายังนิยมใช้สิ่งที่ทำๆ กันมาแต่ในอดีต โดยเชื่ออย่างไม่ลังเลใจเลยว่ามันอาจจะไม่เหมาะหรืออาจจะใช้ประโยชน์ได้ไม่ตรงมากนักกับปัจจุบัน เช่น หลายองค์กรประเมินค่าคะแนนสัมภาษณ์จาก 1-5 (เรียกว่าแบบ Rating Scale)โดยที่ 5 คะแนน หมายถึง ผู้สมัครงานมีคุณสมบัติเรื่องนั้น “สูงกว่ามาตรฐาน” หรือ “เยี่ยม” และ 1 คะแนน คือมีคุณสมบัติเรื่องนั้นแบบ “รับไม่ได้” หรือ “ต้องปรับปรุง” แต่เราลืมคิดไปรึเปล่าว่ามาตรฐานการตัดสินใจเรื่องใดเรื่องหนึ่งของแต่ละคน แท้จริงแล้วเหมือนกันหรือไม่ ?   จะดีกว่าไหมถ้าเราประเมินโดยเอาเกณฑ์ว่า 5 คะแนนหมายถึง ผู้สมัครงานมีความรู้ ทักษะหรือพฤติกรรมเรื่องนั้น “เป็นไปตามตัวชี้วัดทุกรายการที่กำหนดไว้” ขณะที่ 1 คะแนนหมายถึง ผู้สมัครงานมีความรู้ ทักษะหรือพฤติกรรมเรื่องนั้นแบบ “ไม่เป็นไปตามตัวชี้วัดรายการใดเลย”  ผมจึงอยากแนะนำให้ท่านผู้อ่านเลือกการสัมภาษณ์โดยให้น้ำหนักและใช้เทคนิคการสัมภาษณ์อย่างมีโครงสร้าง เช่น การสัมภาษณ์เชิงพฤติกรรม (Behavioral Interview) กับการสัมภาษณ์พร้อมกับกำหนดแนวทางการประเมินผลสัมภาษณ์ให้ชัดเจน เป็นต้น 

 

5.ตระหนักเสมอว่าทัศนคติและแรงจูงใจนั้นสำคัญกว่าทักษะ : ผมเห็นด้วยกับที่หลายองค์กรเน้นการรับพนักงานจากทัศนคติที่เขามีกับงาน มากกว่าการมองเรื่องความรู้และทักษะในการทำงาน ไม่ใช่ว่าเรื่องความรู้และทักษะไม่สำคัญนะครับ แต่มันเป็นอะไรที่เรียนรู้และเพิ่มพูนได้ ต่างไปจากทัศนคติที่เป็นอุปนิสัยติดตัวซึ่งแก้ไขและเปลี่ยนได้ยากนัก  ซึ่งผมเห็นว่าทัศนคติที่พึงประสงค์ตามงานทั่วไปนั้น ได้แก่ การคิดเชิงบวก (Positive Thinking) ความเห็นอกเห็นใจช่วยเหลือผู้อื่น (Sympathy) โดยเฉพาะในงานบริการจะขาดทัศนคติแบบนี้ไม่ได้เลย และอีกเรื่องก็คือ การเปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น (Openness) ไม่คิดเอาแต่ความคิดตนเองเป็นใหญ่

ส่วนการมีแรงจูงใจในการทำงานนั้น นอกจากจะดูได้ที่เป้าหมายการประกอบอาชีพ (Career Objectives) ที่ผู้สมัครงานระบุไว้ในประวัติส่วนตัว (Resume) แล้ว  ยังดูได้จากการสัมภาษณ์ด้วยคำถามเช่น  “คุณมองว่าความสำเร็จในงานของคุณเป็นอย่างไร?”  “คุณมีความต้องการจะทำอะไรในอีก 5 ปีนับจากนี้”  หรือ  “คุณมองเห็นความสำเร็จในชีวิตตัวเองอย่างไร”  เป็นต้น คำถามเช่นนี้จะช่วยตอกย้ำให้เราเห็นถึงทางเลือกอาชีพที่ผู้สมัครงานได้ตั้งเป้าไว้ (แน่นอนว่าผู้สมัครงานจะทำจริงหรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง)  และอย่างน้อยจะทำให้ท่านได้ทราบไว้ก่อนว่า หากตกลงจะรับผู้สมัครงานนั้นเข้ามาทำงาน เพราะประเมินแล้วว่าประสบการณ์ตรง มีทัศนคติที่ดีกับการทำงานในตำแหน่งหน้าที่ที่สนใจรับ ท่านก็ควรคิดต่อว่าจะ Utilize เขาอย่างไรให้องค์กรได้รับประโยชน์และประโยชน์นั้นก็ต้องพิจารณาให้สอดคล้องกับเป้าหมายส่วนตัวของเขาด้วยนะครับ 

 

6.อย่าตกกระแสการเปลี่ยนแปลงที่กระทบต่องานสรรหาบุคลากร : ในแต่ละปีองค์กรที่ปรึกษาทั้งไทยและต่างประเทศที่เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาองค์กร ด้านการพัฒนาระบบทรัพยากรบุคคล โดยเฉพาะองค์กรที่ปรึกษาด้านการสรรหาบุคลากร มักจะทำการสำรวจเพื่อให้เห็นแนวโน้มในงานสรรหาบุคลากร (Recruitment Trend) หรือบางทีก็สำรวจเป็นแนวโน้มด้านการบริหารกำลังคน (Workforce Management Trend) ซึ่งหากเราได้ติดตามอย่างต่อเนื่อง ก็จะช่วยให้เห็นภาพความเปลี่ยนแปลงไปของปัจจัยทั้งหลายและความเคลื่อนไหวในงานด้านการสรรหาบุคลากรที่เรานำมาใช้ประโยชน์ได้ ตัวอย่างเช่น แนวโน้มของการบริหารทรัพยากรบุคคลที่สำรวจจากผู้เชี่ยวชาญโดย  Meridian Recruitment เผยแพร่ใน https://twitter.com/meridianbs ชี้ให้เห็นว่าแนวโน้มของงาน Recruitment ในปี 2018 มีหลายเรื่องน่าสนใจมาก  ซึ่งแม้จะเป็นเรื่องการสรรหาของต่างประเทศที่ต่างจากประเทศไทยมากก็ตาม แต่ก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรพลาด ซึ่งอาจจะนำมาพัฒนาและปรับใช้ในงานของเราให้มีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้นได้ด้วยนะครับ  

 

คลิกอ่านสิ่งสำคัญที่ HR ต้องเรียนรู้จากงาน Recruitment (ตอนที่ 1)

 

รวมเรื่องราวน่ารู้ในงาน HR จากวิทยากรและที่ปรึกษาด้านการพัฒนาบุคลากร  ผู้ผ่านประสบการณ์งานบริหาร HR จากองค์กรในโรงงานอุตสาหกรรมและธุรกิจบริการ

สอบถามข้อมูลด้าน HR หรือแลกเปลี่ยนมุมมองได้ที่ 0-2514-7472 กด 6

หรือ E-mail : [email protected]  (ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น)

 

Credit  :  อ.ชัชวาล อรวงศ์ศุภทัต  (Professional Training & Consultancy)

JOBBKK.COM © Copyright All Right Reserved

Jobbkk has only one website. In no case, we have an affiliate, agent or appointee. Please do not rely on any other website, email, telephone, SMS or other contacting channel. If it is a case, we will prosecute under a lawsuit in the upmost as allowed. DBD

Top